นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำความพร้อมรับนักท่องเที่ยวหลังประกาศนโยบายวีซ่าฟรี พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสาน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แสดงความมุ่งมั่นในการเตรียมความพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากประเทศจีนและคาซัคสถาน หลังจากรัฐบาลประกาศนโยบายวีซ่าฟรี นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างความประทับใจตั้งแต่จุดแรกที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศไทย

ในการแถลงข่าว นายเศรษฐาได้กล่าวว่า “เราต้องให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนของการต้อนรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่การตรวจคนเข้าเมือง การรับกระเป๋า การเรียกรถ ไปจนถึงการเช็คอินเข้าโรงแรม ทุกจุดสัมผัสล้วนมีความสำคัญในการสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้มาเยือน”

การเตรียมความพร้อมด้านกำลังคน

นายกรัฐมนตรีได้หารือกับผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนกำลังพล โดยได้สั่งการให้เปิดใช้ช่องทางการตรวจคนเข้าเมืองให้ครบทั้ง 150 ช่อง จากเดิมที่เปิดใช้งานเพียง 70 ช่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน

“ผมได้กำชับไปแล้วว่า ให้เติมเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ให้เต็มทุกช่อง และให้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด” นายเศรษฐากล่าว “เราไม่สามารถละเลยความสำคัญของการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีนโยบายวีซ่าฟรีแล้วก็ตาม”

สถานการณ์น้ำท่วมในภาคอีสาน

นอกจากประเด็นการท่องเที่ยว นายกรัฐมนตรียังได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงการคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะเอลนิโญในอนาคตอันใกล้

นายเศรษฐาเปิดเผยว่าได้มีการประสานงานกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

“เราต้องเร่งระบายน้ำออกโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพืชผลทางการเกษตร” นายกรัฐมนตรีกล่าว “ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และผมขอฝากความห่วงใยไปถึงทุกท่านที่กำลังประสบภัยในขณะนี้”

แผนการรับมือระยะยาว

ในการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายในอนาคต นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการรับมือระยะยาว ทั้งในด้านการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการท่องเที่ยว

“เราไม่เพียงแต่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่ยังต้องวางแผนระยะยาวเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับทั้งภาคการเกษตรและการท่องเที่ยว” นายเศรษฐากล่าวทิ้งท้าย “ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในอนาคต”