ในค่ำคืนอันศักดิ์สิทธิ์ของวันเข้าพรรษา เหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ได้เกิดขึ้น ณ เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร เมื่อพระพุทธรูปที่หายสาบสูญไปนานนับปีได้ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งท่ามกลางสายน้ำ สร้างความฮือฮาและความปลาบปลื้มให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่และผู้ที่ได้รับรู้เรื่องราว
เหตุการณ์นี้ถูกเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียโดยผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Wut Sut ซึ่งได้โพสต์ภาพพระพุทธรูปที่ถูกพบในน้ำและการเคลื่อนย้ายองค์พระขึ้นรถกระบะเพื่อนำไปประดิษฐาน ณ ศาลาของวัดแห่งหนึ่ง พร้อมกับคำบรรยายที่กล่าวถึงปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นในคืนวันเข้าพรรษา
จากการสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดดอยเทพเนรมิต ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขื่อนน้ำอูน บ้านนาเชือก ตำบลแร่ อำเภอพังโคน จังหวัดสกลนคร เพื่อสัมภาษณ์พระครูวรธรรมโชติ หรือที่ชาวบ้านเรียกขานว่า “หลวงปู่สุดใจ อนุตฺตโร” เจ้าอาวาสวัด ท่านได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด
ความเป็นมาของพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์
หลวงปู่สุดใจเปิดเผยว่า พระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร ซึ่งเคยประดิษฐานอยู่ที่วัดดอยเทพเนรมิตมานานกว่า 20 ปี ก่อนที่จะถูกนำไปประดิษฐาน ณ วัดภูกระแตโดยพระรูปหนึ่งที่ไปจำพรรษาที่นั่น หลังจากนั้นพระพุทธรูปองค์นี้ก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยเป็นเวลาหลายปี
การค้นพบอันน่าอัศจรรย์เกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านที่ออกเรือหาปลาในเขื่อนน้ำอูนได้พบเห็นพระพุทธรูปลอยอยู่กลางน้ำ พวกเขาจึงแจ้งไปยังวัดดงคำโพธิ์ ตำบลปลาโหล อำเภอวาริชภูมิ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทางวัดดงคำโพธิ์จึงได้ติดต่อมายังวัดดอยเทพเนรมิตเพื่อสอบถามว่าเป็นพระพุทธรูปที่เคยประดิษฐานอยู่ที่วัดหรือไม่
หลวงปู่สุดใจกล่าวว่า เมื่อทางวัดไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นพระพุทธรูปองค์เดิมจริง จึงได้อัญเชิญกลับมาประดิษฐาน ณ วัดดอยเทพเนรมิตดังเดิม ท่านยังเสริมอีกว่า จุดที่พบพระพุทธรูปนั้นอยู่ห่างจากวัดไปหลายกิโลเมตร เนื่องจากวัดดงคำโพธิ์อยู่ในเขตอำเภอวาริชภูมิ ในขณะที่วัดดอยเทพเนรมิตอยู่ในเขตอำเภอพังโคน แต่ทั้งสองพื้นที่ล้วนอยู่บริเวณเขื่อนน้ำอูนเช่นเดียวกัน
ปรากฏการณ์แสงเรืองรอบองค์พระ
มีรายงานว่าขณะที่พระพุทธรูปลอยอยู่ในน้ำนั้น มีผู้พบเห็นประกายแสงเรืองๆ รอบองค์พระ อย่างไรก็ตาม หลวงปู่สุดใจให้ความเห็นว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นเพียงแสงสะท้อนจากไฟที่ส่องมากระทบผิวน้ำมากกว่าจะเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้สร้างความปลื้มปีติให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่และผู้ที่ได้รับทราบข่าว หลายคนมองว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่พระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ได้กลับคืนสู่วัดในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเช่นวันเข้าพรรษา ทางวัดดอยเทพเนรมิตเองก็มีแผนที่จะนำพระพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานในอุโบสถสิมน้ำต่อไป เพื่อให้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนสืบไป
