ร้านอาหารชื่อดัง “ครัวลุงรงค์” ตั้งอยู่ในอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยการนำของจตุรงค์ มกจ๊ก นักแสดงตลกชื่อดัง ได้ประกาศเชิญชวนลูกค้าร่วมชิมเมนูพิเศษที่ทำจากปลาหมอคางดำ สนองนโยบายระดับชาติในการกำจัดปลาชนิดนี้ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในแหล่งน้ำธรรมชาติของไทย ทางร้านได้คิดค้นเมนูพิเศษถึง 4 รายการ ได้แก่ ปลาหมอคางดำราดพริกโบราณ, ฉู่ฉี่ปลาหมอคางดำ, ปลาหมอคางดำทอดกระเทียมพริกไทย และปลาหมอคางดำราดน้ำปลา โดยจำหน่ายในราคาเพียงจานละ 100 บาทเท่านั้น
จากการรายงานของผู้สื่อข่าวที่ลงพื้นที่ พบว่าบรรยากาศภายในร้านคึกคักเป็นพิเศษ มีทั้งลุงรงค์และพนักงานของร้านกำลังประชาสัมพันธ์เชิญชวนลูกค้าให้ลองชิมเมนูใหม่จากปลาหมอคางดำ ซึ่งทางร้านได้รับซื้อมาจากชาวบ้านในราคากิโลกรัมละ 20 บาท วันนี้นับเป็นวันแรกที่เปิดให้บริการเมนูพิเศษนี้ และมีลูกค้าจำนวนมากที่ทราบข่าวเดินทางมาลิ้มลองกันอย่างคึกคัก
แรงบันดาลใจเบื้องหลังเมนูพิเศษ
ลุงรงค์ หรือจตุรงค์ เจ้าของร้าน เปิดเผยถึงแรงบันดาลใจในการริเริ่มโครงการนี้ว่า “บ้านเรามีคำกล่าวว่า ‘ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว’ แต่ปัจจุบันในน้ำกลับมีแต่ปลาหมอคางดำที่กำลังทำลายระบบนิเวศในแหล่งน้ำธรรมชาติ เราจึงต้องร่วมมือกันกำจัดให้หมดไป” ลุงรงค์ยังแสดงความหวังว่าการริเริ่มนี้จะเป็นต้นแบบให้ร้านอาหารอื่นๆ ทำตาม เพราะเชื่อว่าหากร้านอาหารทุกแห่งช่วยกันนำเสนอเมนูปลาหมอคางดำ ปัญหานี้จะสามารถแก้ไขได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เมนูยอดนิยมและรสชาติที่ถูกปาก
ลุงรงค์อธิบายถึงการเลือกเมนูทั้ง 4 รายการว่า “เราเลือกนำปลาหมอคางดำมาทำเป็นเมนูฉู่ฉี่, ราดพริกโบราณ, ทอดกระเทียมพริกไทย และราดน้ำปลา เพราะทั้ง 4 เมนูนี้เป็นที่นิยมอยู่แล้ว และเมื่อนำมาปรุงกับปลาหมอคางดำ ก็ให้รสชาติอร่อยถูกปากลูกค้า” เขายังเสริมว่าหลังจากประกาศรับซื้อและเปิดตัวเมนูใหม่บนโซเชียลมีเดีย ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามาสอบถามรายละเอียดและแสดงความสนใจอยากมาลองชิ
การตอบรับจากลูกค้า
ลูกค้าท่านหนึ่งที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อลิ้มลองเมนูพิเศษนี้โดยเฉพาะ ได้สั่งฉู่ฉี่ปลาหมอคางดำและปลาหมอคางดำราดน้ำปลา กล่าวว่า “รสชาติอร่อยมาก เนื้อนุ่มไม่ต่างจากปลาชนิดอื่นเท่าไร” และยืนยันว่าจะสนับสนุนการบริโภคปลาหมอคางดำต่อไปจนกว่าปลาชนิดนี้จะหมดไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
เชิญชวนร้านอาหารทั่วประเทศร่วมแก้ปัญหา
ลุงรงค์ยังได้เชิญชวนร้านอาหารทั่วประเทศให้ร่วมกันแก้ปัญหานี้ โดยกล่าวว่า “อยากฝากถึงร้านอาหารทุกร้านให้ช่วยกันรับซื้อปลาหมอคางดำและนำมาประกอบอาหารในแบบต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกรับประทาน นี่ถือเป็นวาระแห่งชาติ ถ้าเรามีเมนูอาหารจากปลาหมอคางดำมาเสนอ เชื่อว่าลูกค้าต้องสนใจและอยากลองชิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มการบริโภคและลดจำนวนปลาชนิดนี้ได้เร็วขึ้น”
สุดท้าย ลุงรงค์ได้ทดลองชิมอาหารที่ทำจากปลาหมอคางดำให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมอธิบายว่า “รสชาติและเนื้อสัมผัสของปลาหมอคางดำจะคล้ายๆ ปลานิลแต่แข็งกว่านิดหน่อย ต้องบอกว่านำมาทำเป็นฉู่ฉี่กับราดน้ำปลานี่อร่อยเกินบรรยายเลยทีเดียว”
โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของสัตว์ต่างถิ่นที่รุกรานระบบนิเวศ และแสดงให้เห็นถึงวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์และยั่งยืน โดยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด