วันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ จ่าคิงส์ สะพานใหม่ ได้พา น.ส.จี (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี เข้าพบ ร.ต.อ.หญิง ทิพย์สุดา วงศ์กฤษ์งาม รอง สว.(สอบสวน) กก.1.บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรม หลังจากถูกรุ่นพี่รหัสในมหาวิทยาลัยเดียวกันหลอกไปลวนลามทำอนาจาร
น.ส.จี เล่าว่าเธอรู้จักกับรุ่นพี่คนดังกล่าวในฐานะพี่รหัส และเคยไปดื่มสังสรรค์ด้วยกันมาแล้ว 2 ครั้งพร้อมกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่เหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา เมื่อพี่รหัสชวนไปดื่มกันสองต่อสองที่ร้านเหล้า แต่เนื่องจากร้านเต็ม จึงชวนกันไปต่อที่ห้องของฝ่ายชาย ด้วยความไว้ใจ น.ส.จี จึงตกลงไปด้วย
ระหว่างที่นั่งดื่มด้วยกัน รุ่นพี่พยายามมอมเหล้าเธอ จากนั้นก็เข้ามาโอบกอดและพยายามลวนลาม แต่ น.ส.จี ปฏิเสธและหนีเข้าไปหลบในห้องน้ำ พร้อมขอร้องให้ปล่อยเธอไป ในที่สุดรุ่นพี่ก็ยอมพาเธอกลับหอพัก
การดำเนินการทางกฎหมายและการข่มขู่
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.จี ได้เข้าแจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ ทำให้มีการเรียกตัวฝ่ายชายมารับทราบข้อกล่าวหา แต่เขาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและข่มขู่ว่าจะแจ้งความกลับในข้อหาหมิ่นประมาท เนื่องจาก น.ส.จี ได้โพสต์ผ่าน Instagram Story เพื่อหาผู้เสียหายเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังมีอาจารย์ในสาขาคนหนึ่งโทรศัพท์มาเพื่อให้ น.ส.จี ยอมความ ซึ่งเธอยอมเพราะไม่รู้เรื่องกฎหมายและกลัว น.ส.จี เปิดเผยว่าอาจารย์คนดังกล่าวมีความสนิทสนมกับรุ่นพี่ผู้ต้องหา โดยมีการทำงานร่วมกันและให้ความช่วยเหลือทั้งเรื่องรถและที่พัก
ผู้เสียหายรายอื่นและพฤติกรรมของผู้ต้องหา
น.ส.จี ยังเปิดเผยว่า มีผู้เสียหายจากการกระทำของรุ่นพี่คนนี้อีกหลายราย โดยมีผู้ถูกข่มขืนประมาณ 3 ราย และถูกลวนลามรวมทั้งหมด 9 ราย แต่มีเพียง 3 รายที่กล้าแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่เหลือไม่กล้าเพราะอับอาย
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ารุ่นพี่คนดังกล่าวเคยลวนลามนักศึกษาที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งขณะไปฝึกสอน และเคยพูดกับเพื่อนว่าหากถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย จะทำร้ายร่างกายผู้ร้องเรียน
ปัจจุบัน น.ส.จี ได้แจ้งเรื่องนี้กับทางคณะเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม และรองคณบดีกำลังดำเนินการสอบสวนเบื้องต้น ขณะที่พนักงานสอบสวนได้บันทึกปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาร่วมกับพยานหลักฐานอื่นๆ ก่อนเสนอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป