ตำรวจจับกุมชายวัย 36 ปี ลักรถจักรยานยนต์จากลานจอดวัดดังในนนทบุรี อ้างเหตุผลชวนสงสัย

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี ได้ทำการจับกุมนายวีระชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ ที่ห้องเช่าในซอยศรีบุญยืน เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ที่ถูกลักไป

เหตุการณ์นี้สืบเนื่องมาจากการแจ้งความของนายชัยเดช อายุ 42 ปี เจ้าของรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 8810 นนทบุรี ซึ่งถูกลักไปจากลานจอดรถวัดเขมาภิรตาราม เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2567

หลังจากได้รับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสืบสวนอย่างรวดเร็ว โดยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุและเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยและทำการจับกุมได้ภายในเวลาเพียง 2 วัน

ภาพจากการสืบสวน: เหตุการณ์ที่น่าสนใจ

จากภาพกล้องวงจรปิด เห็นผู้ต้องหาเดินวนเวียนอยู่บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ภายในวัด ใกล้กับประตูทางออก ก่อนที่จะทำทีเป็นเลือกรถและขึ้นขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จากนั้นจึงถอยหลังและขับหลบหนีไปทางแยกพระราม 5 ถนนพิบูลสงคราม ที่น่าสนใจคือ ในขณะที่เกิดเหตุ มีพระสงฆ์กำลังเดินอยู่ในบริเวณลานจอดรถด้วย

คำให้การที่น่าฉงน: เหตุผลที่ไม่น่าเชื่อ

ในการสอบสวน นายวีระชัยให้การรับสารภาพ แต่อ้างเหตุผลที่ชวนให้สงสัย โดยกล่าวว่าในวันเกิดเหตุ เขาเดินจากบ้านมาเพื่อจะหาแม่แถวสะพานพระราม 5 เพื่อขอเงินไปซื้อข้าว เมื่อมาถึงซุ้มประตูทางเข้าวัดเขมาภิรตาราม เขาเห็นรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่โดยมีกุญแจเสียบคาไว้ จึงตัดสินใจลักรถไปเนื่องจากเดินมาไกลและมีอาการของโรคริดสีดวงกำเริบ ผู้ต้องหายืนยันว่าไม่มีเจตนาลักไปขายแต่อย่างใด

บทสรุปของคดี

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรแก่นายวีระชัย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป คดีนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการระมัดระวังทรัพย์สินของตนเอง แม้จะอยู่ในสถานที่ที่ดูเหมือนจะปลอดภัย เช่น ลานจอดรถของวัด