พระเอกหน้าเด็กตลอดกาล “เขตต์ ฐานทัพ” ได้เปิดเผยแนวคิดในการอบรมสั่งสอนลูกชาย “น้องดีจ้า” เกี่ยวกับการใช้เงินและการทำงานในวงการบันเทิง ผ่านการให้สัมภาษณ์ในรายการ “โต๊ะหนูแหม่ม” กับพิธีกรชื่อดัง หนูแหม่ม สุริวิภา โดยเขตต์ได้เล่าถึงวิธีการปลูกฝังค่านิยมและแนวคิดต่างๆ ให้กับลูกชาย พร้อมทั้งเปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาทของตนเองจากนักแสดงสู่ผู้อยู่เบื้องหลังในฐานะผู้จัดละครและซีรีส์
แนวคิดการสอนลูกเรื่องคุณค่าของเงิน
เขตต์ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสอนลูกให้เข้าใจคุณค่าของเงิน โดยเล่าว่า “การสอนลูกตัวเอง คือลูกตัวเองจะใช้เงินเยอะไง ถ้าอยากจะใช้เงินเยอะๆ แบบนี้ จ้าต้องช่วยป๋าทำงาน” เขาอธิบายว่าได้ “บังคับ” ให้ลูกชายเข้าร่วมการแสดง ไม่ใช่เพราะต้องการให้เข้าสู่วงการบันเทิงโดยตรง แต่เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้ถึงความยากลำบากของการทำงานและการหาเงิน
นอกจากนี้ เขตต์ยังได้ใช้วิธีการที่น่าสนใจในการสอนลูกเรื่องการรับค่าตอบแทน โดยให้ลูกชายไปรับเงินกับทีมงานและโปรดิวเซอร์โดยตรง แทนที่จะรับจากพ่อ เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้กระบวนการทำงานและเข้าใจคุณค่าของเงินมากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงบทบาทในวงการบันเทิง
เขตต์ได้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาทของตนเองจากนักแสดงสู่การเป็นผู้จัดและผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งทำให้เขาได้ทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น เขาเล่าว่า “เดี๋ยวนี้เด็กรุ่นใหม่ชอบเรียกกันแบบนี้ เรียกคุณแม่เรียกคุณพ่อ ตอนแรกก็แปลกๆ หลังๆ เริ่มชินแล้วครับ” แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไประหว่างคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ในวงการ
การส่งต่อโอกาสและประสบการณ์
เขตต์แสดงความภูมิใจที่ได้มีโอกาสส่งต่อประสบการณ์และโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในวงการ โดยเขากล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าผมทำและมีความสุขอันดับแรก ผมมีความรู้สึกดีที่ได้ส่งมอบ ส่งต่อความรู้สึก ได้ส่งต่อประสบการณ์ในชีวิตผมได้ส่งต่อโอกาส” เขาเปรียบเทียบการส่งต่อประสบการณ์นี้เหมือนกับการให้ “แคปซูล” ที่รวบรวมความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดไว้ให้คนรุ่นใหม่
อนาคตของ “น้องดีจ้า” ในวงการบันเทิง
เมื่อถูกถามถึงแนวโน้มการเป็นนักแสดงของลูกชาย เขตต์เผยว่า “น้องดีจ้า” มีลักษณะนิสัยที่น่าสนใจ เช่น เป็นคนช่างสังเกตและจับผิดเก่ง ซึ่งอาจเป็นคุณสมบัติที่ดีสำหรับการเป็นนักแสดงหรือผู้กำกับในอนาคต อย่างไรก็ตาม เขตต์เน้นย้ำว่าทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสนใจของลูกชายเอง
การดูแลพัฒนาการของลูกในยุคดิจิทัล
เขตต์ยังได้แบ่งปันวิธีการดูแลพัฒนาการของลูกชายในยุคที่สื่อและเทคโนโลยีมีอิทธิพลสูง โดยเขาเล่าว่าลูกชายชอบดูหนังฮอลลีวูดและการ์ตูนที่มีเนื้อหาลึกซึ้ง ซึ่งเขาและภรรยาจะคอยควบคุมเนื้อหาที่ลูกเข้าถึงได้ โดยเฉพาะเนื้อหาที่รุนแรง เพื่อให้เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก
บทสัมภาษณ์นี้แสดงให้เห็นถึงมุมมองที่น่าสนใจของเขตต์ ฐานทัพ ในฐานะพ่อและผู้มีประสบการณ์ในวงการบันเทิง ที่พยายามถ่ายทอดความรู้และค่านิยมที่ดีให้กับทั้งลูกชายและคนรุ่นใหม่ในวงการ