สามีใช้โดรนสืบพฤติกรรมภรรยา เปิดโปงความสัมพันธ์ลับในป่ากับเจ้านาย นำไปสู่การหย่าร้าง

ความรักและความไว้วางใจเป็นรากฐานสำคัญของชีวิตคู่ แต่เมื่อความสงสัยเริ่มก่อตัว บางครั้งก็อาจนำไปสู่การกระทำที่คาดไม่ถึง เช่นเรื่องราวของนายจาง ชายวัย 33 ปี จากมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่ตัดสินใจใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อไขปริศนาพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของภรรยา

นายจางและภรรยาแต่งงานกันมา 10 ปี ชีวิตคู่ของทั้งสองดำเนินไปอย่างราบรื่นและเรียบง่าย จนกระทั่งปีที่แล้ว เมื่อนายจางเริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวภรรยา เธอเริ่มมีท่าทีเย็นชาและดูเหมือนจะเมินเฉยต่อเขามากขึ้น นอกจากนี้ เธอยังขอกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่บ่อยครั้งกว่าปกติ ทั้งที่แต่ก่อนไม่ค่อยได้กลับไป

ทั้งคู่ทำงานเป็นพนักงานในโรงงานเดียวกัน แต่เมื่อปีที่ผ่านมา ภรรยาของนายจางได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ไปทำงานในออฟฟิศของเจ้านาย ด้วยเหตุผลว่าเธอมีผลงานที่โดดเด่น การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นายจางเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะเมื่อภรรยาขอกลับบ้านพ่อแม่บ่อยขึ้น เขาถึงกับต้องถามเธอว่า “เธอไม่จำเป็นต้องขอลาเหรอ?” แต่ภรรยากลับบอกว่าไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้

จุดเปลี่ยนที่นำไปสู่การสืบหาความจริง

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมปีที่แล้ว นายจางวางแผนจะพาภรรยาไปรับประทานอาหารเย็นและมอบของขวัญให้เธอ แต่ภรรยากลับปฏิเสธและบอกว่าอยากกลับไปเยี่ยมบ้านพ่อแม่มากกว่า เหตุการณ์นี้ทำให้นายจางตัดสินใจใช้โดรนแอบติดตามภรรยาเพื่อหาความจริง

ภาพที่บันทึกได้จากโดรนเผยให้เห็นว่า ภรรยาของนายจางไม่ได้ไปบ้านพ่อแม่ตามที่บอก แต่เธอขึ้นรถยนต์สีดำที่หัวมุมถนนและเดินทางไปยังกระท่อมบนภูเขา ที่นั่น เธอเข้าไปในกระท่อมพร้อมกับชายคนหนึ่งเป็นเวลานาน ก่อนที่ทั้งคู่จะออกมาและเดินทางกลับด้วยกัน

จากหลักฐานที่ได้ นายจางสามารถระบุได้ว่าชายคนนั้นคือ “นายหวัง” เจ้านายของภรรยาเขา นายจางอธิบายว่า “สาเหตุหลักมาจากภรรยาของเจ้านายก็ทำงานในโรงงานด้วย ทำให้ทั้งคู่ทำอะไรๆ ไม่สะดวก ดังนั้นภรรยาของผมจึงเหมือนโดนบังคับให้ต้องแอบมามีความสัมพันธ์กับเจ้านายของเธอในป่าไปโดยปริยาย” ด้วยหลักฐานที่ได้มา นายจางตัดสินใจดำเนินการหย่าร้างกับภรรยาทันที

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความสัมพันธ์ในที่ทำงานและการนอกใจคู่สมรสเท่านั้น แต่ยังชี้ให้เห็นถึงการใช้เทคโนโลยีในทางที่อาจละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น แม้ว่าโดรนจะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในกองทัพเป็นหลัก แต่ปัจจุบันได้รับความนิยมในหมู่ประชาชนทั่วไปมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ หากไม่มีการควบคุมที่เหมาะสม

กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีสามารถเป็นดาบสองคม ในขณะที่ช่วยเปิดเผยความจริง แต่ก็อาจสร้างปัญหาด้านจริยธรรมและกฎหมายได้เช่นกัน สังคมจึงควรตระหนักถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบและเคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น