บ้านร้างทรงไทยเผยปริศนาสยอง: พบโครงกระดูกปริศนา คาดเป็นโจรขโมยสายไฟ

เหตุการณ์สุดสยองเกิดขึ้นในย่านราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร เมื่อพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในบ้านทรงไทยที่ถูกทิ้งร้าง สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้พบเห็นและชาวบ้านในละแวกนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชได้เร่งดำเนินการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตและระบุตัวตนของศพปริศนา

เมื่อเวลา 16.30 น. ของวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 ร.ต.อ.จีระศักดิ์ หอมนาน รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในบ้านทรงไทยหลังหนึ่งบนถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ทันทีที่ได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยทีมแพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบ

สภาพที่เกิดเหตุและการค้นพบ

ณ จุดเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยแบบยกสูง เจ้าหน้าที่พบโครงกระดูกใต้ถุนบ้าน คาดว่าเป็นเพศชายและเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ ศพสวมเพียงกางเกงยีนส์สีดำ ส่วนเสื้อผ้าและเนื้อหนังถูกแมลงกัดกินจนหมดสิ้น ไม่พบเอกสารระบุตัวตนใดๆ ติดตัวผู้เสียชีวิต

การตรวจสอบภายในบ้านพบมีดปอกผลไม้ความยาว 1 ฟุต ซึ่งสันนิษฐานว่าอาจใช้ในการปอกสายไฟ นอกจากนี้ยังพบว่ามีสายไฟถูกตัดขาดหลายจุด และเครื่องปรับอากาศถูกถอดออกไป

คำให้การของผู้ดูแลบ้านและการสืบสวน

นางสมสกุล อายุ 62 ปี ผู้ดูแลบ้านและเป็นผู้พบศพคนแรก ให้การว่าได้กลิ่นเหม็นคล้ายซากสัตว์เน่าขณะเข้ามาทำความสะอาดบ้านในช่วงบ่าย จึงได้ตามเพื่อนบ้านมาช่วยตรวจสอบและพบโครงกระดูกดังกล่าว

นางสมสกุลเล่าว่า บ้านหลังนี้ไม่มีผู้อยู่อาศัยมานานแล้ว เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวของตนเอง ปล่อยให้บ้านรกร้าง โดยตนเป็นผู้เข้ามาดูแลและทำความสะอาดทุก 2 เดือน

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ที่ผ่านมา นางสมสกุลได้จ้างคนมาตัดหญ้าและพบว่ามีการขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์และถังแก๊สในครัว รวมถึงมีการรื้อค้นข้าวของภายในบ้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นของไม่มีค่าจึงไม่ได้แจ้งความ อย่างไรก็ตาม ในวันนั้นระบบไฟฟ้าในบ้านยังคงใช้งานได้ตามปกติ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น

จากการตรวจสอบพบว่าสายไฟในบ้านถูกตัดขาดทั้งหมด ทำให้ระบบไฟฟ้าใช้การไม่ได้ ผู้ดูแลบ้านจึงสันนิษฐานว่าโครงกระดูกที่พบน่าจะเป็นของคนร้ายที่เข้ามาลักลอบตัดสายไฟ และอาจเสียชีวิตระหว่างการกระทำความผิด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งไปยังภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป การสืบสวนยังคงดำเนินต่อไปเพื่อไขปริศนาการเสียชีวิตและระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต