สยองขวัญ! สาวเจอห้องลับใต้ดินในบ้าน พบรอยมือ-เท้าเด็กเต็มผนัง ชาวเน็ตแห่แนะให้แจ้งตำรวจ หวั่นมีเหตุร้าย

เหตุการณ์สุดสยองที่ทำเอาชาวโซเชียลทั่วโลกต้องตกตะลึงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 เมื่อสาวชาวต่างชาติรายหนึ่งได้แชร์คลิปวิดีโอผ่านแพลตฟอร์ม TikTok @bigbrah1 เผยให้เห็นห้องลับสุดลึกลับที่ซ่อนอยู่ในบ้านของเธอ โดยคลิปดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม มียอดวิวทะลุ 6.8 ล้านครั้งในเวลาอันรวดเร็ว

จากภาพในคลิป เห็นได้ว่าห้องลับนี้ถูกซ่อนอยู่หลังประตูตู้ในห้องน้ำใต้ดิน เมื่อเปิดเข้าไปก็พบกับภาพที่ชวนให้ขนลุกซู่ เมื่อผนังห้องเต็มไปด้วยรอยมือและรอยเท้าขนาดเล็กจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีภาพวาดฝีมือเด็กติดอยู่บนผนัง รวมถึงภาพวาดกระท่อมที่มีคำว่า “บ้านแห่งรัก” เขียนกำกับไว้ และยังพบกระดาษที่มีชื่อ รีเบคก้า เคลลี่ และซาราห์ เขียนอยู่ด้วย

ทันทีที่คลิปถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างแสดงความคิดเห็นในเชิงวิตกกังวล บางส่วนเสนอแนะให้เจ้าของบ้านรีบแจ้งตำรวจ เพราะเกรงว่าอาจมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในอดีต โดยเฉพาะประเด็นที่อาจมีเด็กถูกกักขังในห้องนี้ ความเห็นบางส่วนระบุว่า “ห้องนี้อาจเป็นสถานที่หลบซ่อนที่น่าสนใจ หรือเป็นสถานที่ที่น่าขนลุกที่สุดในประวัติศาสตร์” ขณะที่บางคนกล่าวว่า “ฉันเห็นแล้วคิดว่ามีคนถูกกักตัวอยู่ที่นี่” และ “บ้านแห่งรักคืออะไร อ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ”

ความเป็นมาของห้องลับ: จุดเริ่มต้นของปริศนา

เจ้าของโพสต์ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมภายหลังว่า เธอได้ทำความสะอาดและจัดการห้องลับนี้แล้ว โดยเคลียร์ของทั้งหมดออกและทาสีใหม่ เพื่อดัดแปลงให้เป็นห้องเก็บของ อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่ายังคงรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่ต้องเข้าไปในห้องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสังเกตว่าความสูงของห้องค่อนข้างต่ำ เหมาะสำหรับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ ทำให้เธอตั้งข้อสังเกตว่าห้องนี้อาจเคยเป็น “ฐานทัพลับ” สำหรับเด็กๆ มาก่อน

เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวโซเชียลเท่านั้น แต่ยังกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของบ้านหลังนี้ และความเป็นไปได้ที่อาจมีเรื่องราวลึกลับซ่อนอยู่ ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่าเจ้าของบ้านได้แจ้งเหตุการณ์นี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบหรือไม่ แต่เหตุการณ์นี้ก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ และอาจนำไปสู่การสืบสวนเพิ่มเติมในอนาคต

ข่าวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของโซเชียลมีเดียในการเผยแพร่เรื่องราวที่น่าสนใจ และกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่อาจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเด็กและเยาวชน