วันที่ 3 มิถุนายน 2567 นับเป็นวันสำคัญยิ่งของปวงชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งทรงดำรงพระภูมิในฐานะองค์ประมุขของปวงชนชาวไทย และเป็นแบบอย่างที่งดงามแห่งคุณธรรมและจริยวัตรอันประเสริฐ
ตามประเพณีปฏิบัติสืบเนื่องกันมา พสกนิกรชาวไทยต่างพร้อมใจกันจัดงานเฉลิมฉลองและทำบุญถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
ในวันสำคัญยิ่งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางพักตร์พิไล ทวีสิน ภริยา ได้นำหน่วยงานราชการ องคมนตรี และประชาชนผู้จงรักภักดีเข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บริเวณท้องสนามหลวง
รายละเอียดของพิธีสำคัญ
เวลา 07.30 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีตักบาตรถวายพระราชกุศลได้เริ่มขึ้น โดยมีสมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะจำนวน 10 รูปประทับนั่งบนอาสน์สงฆ์ นายกรัฐมนตรีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายธูปเทียนแพพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะและพระราชาคณะจำนวน 10 รูปประทานพระพร พระสงฆ์ทั้งหมดเจริญพระพุทธมนต์
ภาพอันงดงามประจักษ์แก่สายตาผู้ร่วมพิธี เมื่อนายกรัฐมนตรีและภริยา องคมนตรี ประธานสภาทั้งสองสภา ตลอดจนผู้นำองค์กรตามรัฐธรรมนูญได้ร่วมถวายผ้าไตรและสังฆทานแด่พระสงฆ์จำนวน 10 รูป ด้วยจิตศรัทธาและความเคารพยิ่ง ก่อนจะนำประชาชนและข้าราชการทุกระดับร่วมตักบาตรพระสงฆ์รวม 147 รูป
ความหมายแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี
วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นวันสำคัญประจำชาติที่ปวงชนชาวไทยต่างให้ความเคารพรักและนับถือองค์พระบรมราชินีผู้ทรงสถิตเป็นแบบอย่างแห่งความงามทางพระจริยวัตร เป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวไทย และเป็นองค์พระประมุขที่ได้ทรงริเริ่มโครงการด้านสาธารณกุศลอันก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชน เยาวชน และผู้ด้อยโอกาสมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
หลังจากประกอบพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลเสร็จสิ้นแล้ว นายกรัฐมนตรีและคณะก็ได้เดินทางไปลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้
ด้วยเหตุนี้ พิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จึงถือเป็นประเพณีอันงดงามที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าพึงปฏิบัติสืบต่อกันไป เพื่อสักการะและแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตาต่อพระมหากรุณาธิคุณ