ปรากฏการณ์สุดตะลึง: ปลาหมอคางดำผู้อึดทน ท้าทายน้ำร้อน ส่งผลกระทบต่อปลากะพงจนตายยกบ่อ*

ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2567 เวลาประมาณ 12.30 น. ได้เกิดเหตุการณ์อันน่าตื่นตะลึงขึ้นที่บ่อเลี้ยงปลากะพงแห่งหนึ่งในตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อพบว่าปลาหมอคางดำ สัตว์น้ำต่างถิ่นที่มีความทนทานสูง ได้แพร่พันธุ์และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วจนเต็มบ่อ ส่งผลให้ปลากะพงและสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ ตายยกบ่

นายบุญศรี เจ้าของบ่อเลี้ยงปลากะพงวัย 71 ปี ได้แจ้งเหตุการณ์อันน่าตกใจนี้ ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องรีบเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงพบว่าบ่อดังกล่าวมีขนาดประมาณ 2 ไร่ และเต็มไปด้วยปลาหมอคางดำขนาดใหญ่ บางตัวมีน้ำหนักถึงครึ่งกิโลกรัม ที่น่าสนใจคือปลาเหล่านี้สามารถอาศัยอยู่ในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติได้ ในขณะที่สัตว์น้ำชนิดอื่นๆ เช่น ปูทะเลและปลากะพง ไม่สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมดังกล่าวได้และตายลงทั้งหมด

น.ส.ธนภร เจียรสุข นายกสมาคมการประมงคลองด่าน ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการจับปลาหมอคางดำขึ้นมาได้ประมาณ 100 กิโลกรัมแล้ว แต่ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ่อ สิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลว่าหากปล่อยให้ปลาชนิดนี้แพร่พันธุ์ในทะเลอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลอย่างรุนแรง

ความทนทานที่น่าทึ่งของปลาหมอคางดำ

ปลาหมอคางดำที่พบในบ่อแห่งนี้มีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากที่พบในแหล่งอื่นๆ นอกจากขนาดที่ใหญ่กว่าปกติแล้ว ยังมีความสามารถในการปรับตัวให้อยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในน้ำที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งปกติแล้วจะเป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำทั่วไป

นายนที เจ้าของบ่อเลี้ยงปลากะพงวัย 27 ปี ได้อธิบายถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่าปลากะพงจำนวน 300 ตัวที่เลี้ยงไว้ในบ่อได้ตายลงอย่างกะทันหัน เมื่อถ่ายน้ำออกเพื่อตรวจสอบสาเหตุ กลับพบว่ามีปลาหมอคางดำอยู่เต็มบ่อ ซึ่งคาดว่าเชื้อของปลาชนิดนี้อาจติดมากับน้ำทะเลที่นำเข้ามาในบ่อตามรอบการเลี้ยงปกติ

ความสามารถในการปรับตัวของปลาหมอคางดำไม่เพียงแต่ทำให้มันอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังสามารถแพร่พันธุ์และเพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการแย่งอาหารและพื้นที่จากสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ปลาหมอคางดำยังกินลูกปูทะเล หอยแครง และกุ้งในบ่อจนหมด สร้างความเสียหายอย่างมากต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ

นายบรรเจิด อุดมสมุทรหิรัญ ชาวประมงพื้นบ้าน ได้แสดงความคิดเห็นว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบ่อแห่งนี้เป็นหลักฐานชัดเจนที่แสดงให้เห็นถึงความทนทานและความสามารถในการปรับตัวของปลาหมอคางดำ ซึ่งสามารถอยู่รอดได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง ออกซิเจนต่ำ และน้ำเน่าเสีย

สถานการณ์นี้ได้สร้างความกังวลอย่างมากให้กับเกษตรกรและชาวประมงในพื้นที่ พวกเขาจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมงจังหวัดสมุทรปราการ เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน รวมถึงพิจารณามาตรการในการควบคุมประชากรปลาหมอคางดำและการชดเชยความเสียหายให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหานี้ลุกลามและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจการประมงในวงกว้างต่อไป