ทรัมป์กลับมาอย่างสง่างาม: ที่ประชุมใหญ่รีพับลิกันต้อนรับอย่างท่วมท้น พร้อมเปิดตัว “เจ.ดี. แวนซ์” เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี

การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันวันแรกที่เมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม เป็นไปอย่างคึกคักและเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เมื่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฏตัวท่ามกลางเสียงโห่ร้องต้อนรับอย่างกึกก้องจากผู้เข้าร่วมประชุม ทรัมป์เดินเข้าสู่ไฟเซิร์ฟ ฟอรัม อารีนา โดยมีผ้าพันแผลขนาดใหญ่ปิดอยู่ที่หู ซึ่งเป็นร่องรอยจากเหตุการณ์พยายามลอบสังหารเมื่อไม่กี่วันก่อน

การปรากฏตัวของทรัมป์ครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการให้เป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ประกาศเลือก เจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกวัย 39 ปีจากรัฐโอไฮโอ ให้เป็นคู่ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในทีมของเขา ซึ่งถือเป็นการเลือกที่น่าประหลาดใจ เนื่องจากแวนซ์เคยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรงในอดีต

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของ เจ.ดี. แวนซ์

แวนซ์เป็นหนึ่งในวุฒิสมาชิกที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดที่ได้รับเลือกให้ลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอเมริกา ในปี 2016 เขาเคยเรียกทรัมป์ว่าเป็น “ฮิตเลอร์ของอเมริกา” แต่ปัจจุบัน แวนซ์กลับสนับสนุนแนวทางการเมืองของทรัมป์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายชาตินิยม การต่อต้านผู้อพยพ และแม้กระทั่งการกล่าวอ้างว่าการเลือกตั้งปี 2020 ถูกโกง

นอกจากนี้ แวนซ์ยังมีจุดยืนที่แข็งกร้าวกว่าทรัมป์ในบางประเด็น โดยเฉพาะการต่อต้านการทำแท้ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสายกลาง การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของแวนซ์สะท้อนให้เห็นถึงอิทธิพลอันยิ่งใหญ่ของทรัมป์ที่มีต่อพรรครีพับลิกัน และความสามารถในการดึงดูดแม้แต่ผู้ที่เคยเป็นศัตรูทางการเมืองให้มาอยู่ฝ่ายเดียวกัน

การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันครั้งนี้เกิดขึ้นในบริบทที่น่าสนใจ หลังจากเหตุการณ์พยายามลอบสังหารทรัมป์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ทรัมป์กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ความสนใจของสื่อมวลชนมุ่งไปที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมในการลงสมัครชิงตำแหน่งอีกสมัยของเขา

ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับนิวยอร์กโพสต์ว่า เขาได้ปรับเปลี่ยนคำปราศรัยของตนใหม่ โดยจะเน้นย้ำเรื่องการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวอเมริกัน แทนที่จะโจมตีรัฐบาลของไบเดนอย่างรุนแรงตามที่วางแผนไว้เดิม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นความพยายามของทรัมป์ในการสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นผู้นำที่สามารถรวมชาติได้ ท่ามกลางความแตกแยกทางการเมืองที่รุนแรงในสหรัฐอเมริกา

ในขณะเดียวกัน ทีมรณรงค์หาเสียงของประธานาธิบดีไบเดนก็ไม่รอช้าที่จะโจมตีทรัมป์และแวนซ์ โดยออกแถลงการณ์ว่านโยบายของทั้งคู่จะส่งผลเสียต่อชนชั้นกลางและทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ในขณะที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนรวยและบริษัทใหญ่

การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันครั้งนี้จะดำเนินไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม โดยทรัมป์มีกำหนดจะกล่าวสุนทรพจน์ยอมรับการเสนอชื่อของพรรคอย่างเป็นทางการในวันสุดท้าย ท่ามกลางความคาดหวังว่าเขาจะสามารถรักษาคะแนนนำเหนือไบเดนในโพลต่างๆ โดยเฉพาะในรัฐ “สวิงสเตท” ที่มีความสำคัญต่อผลการเลือกตั้ง

การประชุมครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการเปิดตัวทีมผู้สมัครของพรรครีพับลิกันเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญสำหรับทรัมป์ในการแสดงวิสัยทัศน์และความพร้อมในการนำพาประเทศ ท่ามกลางความท้าทายทั้งภายในและภายนอกที่สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญอยู่