ในวันนี้ รายการโหนกระแสได้นำเสนอประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับความขัดแย้งในครอบครัวที่เกิดขึ้นจากมรดกมูลค่ามหาศาล 100 ล้านบาท โดยมีเหตุการณ์สำคัญคือการที่พี่สาวได้พาตัวน้องชายที่กำลังป่วยออกจากบ้าน แยกจากภรรยาและบุตร โดยอ้างว่าครอบครัวของน้องชายไม่สามารถดูแลได้อย่างเหมาะสม
ทางด้านภรรยาของผู้ป่วยได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุข ไม่เคยมีปัญหาใดๆ จนกระทั่งสามีเริ่มป่วยเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่สาวของสามีเริ่มเข้ามามีบทบาทในครอบครัว เธอกล่าวหาว่าพี่สาวของสามีพยายามที่จะยึดครองมรดกมูลค่า 100 ล้านบาทที่มาจากพี่สาวคนโตที่เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งที่น้องๆ ที่เหลือรวมถึงสามีของเธอเป็นผู้จัดการและผู้มีสิทธิ์ในมรดกดังกล่าว
อดีตที่ไม่อาจลบเลือน: เมื่อ “ป้าหยก” กลายเป็น “คุณสาวิตรี”
ประเด็นที่น่าสนใจในรายการคือการที่พิธีกรหนุ่ม กรรชัย ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการเรียกชื่อพี่สาวของสามี ซึ่งในข่าวก่อนหน้านี้ถูกเรียกว่า “ป้าหยก” แต่เมื่อมาปรากฏตัวในรายการกลับขอให้เรียกว่า “สาวิตรี” แทน
เมื่อถูกซักถามถึงเหตุผล ทางครอบครัวของภรรยาได้แนะนำให้ค้นหาคำว่า “ป้าหยกโยนขยะ” ในกูเกิล ซึ่งพิธีกรได้ทำการค้นหาทันทีและพบข่าวเก่าจากปี 2565 ที่รายงานเหตุการณ์ “ป้าหยก” นำขยะไปทิ้งหน้าบ้านเพื่อนบ้าน สร้างความเดือดร้อนจนมีการร้องเรียนและกลายเป็นข่าวใหญ่
เมื่อถูกถามว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ คุณสาวิตรีได้ยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีตที่เคยไปออกรายการเพื่อแก้ไขปัญหาแล้ว และขอให้พูดถึงเรื่องปัจจุบันแทน
เหตุการณ์นี้ได้สร้างความสนใจให้กับผู้ชมรายการเป็นอย่างมาก เนื่องจากเผยให้เห็นถึงอดีตที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ที่กำลังอยู่ในความขัดแย้งเรื่องมรดก ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและเจตนาที่แท้จริงในกรณีพิพาทครั้งนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพิจารณาของสาธารณชนและอาจมีผลกระทบต่อการดำเนินการทางกฎหมายในอนาคต