วงการการ์ตูนไทยตื่นเต้นกับภาพล่าสุดของ “บ.ก.วิติ๊ด” หรือ วิธิต อุตสาหจิต เจ้าของและผู้ก่อตั้งนิตยสารการ์ตูน “ขายหัวเราะ” และ “มหาสนุก” ที่ได้รับความนิยมมายาวนานกว่า 50 ปี โดยภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความอ่อนเยาว์ของคุณวิธิต แม้จะมีอายุเข้าสู่ทศวรรษที่ 7 แล้วก็ตาม
“ขายหัวเราะ” เป็นนิตยสารการ์ตูนแนวตลกขบขันที่อยู่คู่สังคมไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 โดยจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ภายใต้การนำของคุณวิธิต อุตสาหจิต หรือที่รู้จักกันในนาม “บ.ก.วิติ๊ด” ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ในอดีตก่อนยุคโซเชียลมีเดีย ภาพของ บ.ก.วิติ๊ด ในความทรงจำของผู้อ่านคือชายร่างท้วม สวมชุดสูทสีน้ำเงิน ผูกเนคไทสีแดง และมีสีหน้าเคร่งขรึมอยู่เสมอ
ล่าสุด ทางเฟซบุ๊กเพจอย่างเป็นทางการของ “ขายหัวเราะ” ได้เผยแพร่ภาพของคุณวิธิตในปัจจุบัน ซึ่งแสดงท่าทางเลียนแบบตัวการ์ตูน บ.ก.วิติ๊ด แต่สิ่งที่ทำให้แฟนๆ ประหลาดใจคือ แม้คุณวิธิตจะมีอายุเข้าสู่ช่วง 70 ปีแล้ว แต่กลับยังดูกระฉับกระเฉง แข็งแรง และมีความอ่อนเยาว์กว่าวัยอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งรูปร่างก็ไม่ได้อ้วนท้วนสมบูรณ์เหมือนตัวการ์ตูนที่คุ้นตาอีกด้วย
เส้นทางสู่การเป็น “บ.ก.วิติ๊ด” ผู้สร้างรอยยิ้มให้คนไทย
คุณวิธิต อุตสาหจิต เกิดในปี พ.ศ. 2498 เป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 9 คน ของนายบันลือ และนางกนกวรรณ อุตสาหจิต ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ด้วยความที่เติบโตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ คุณวิธิตจึงมีความสนใจในงานเขียนและการวาดการ์ตูนตั้งแต่เยาว์วัย
หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมต้นจากโรงเรียนสตรีจุลนาค และประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนพณิชยพระนคร คุณวิธิตได้เดินทางไปศึกษาต่อด้านการทำภาพยนตร์ที่ London Film School ประเทศอังกฤษ จนสำเร็จการศึกษาระดับ Diploma of Higher Education
ด้วยความรักและหลงใหลในการวาดการ์ตูน เมื่ออายุเพียง 18 ปี คุณวิธิตได้ริเริ่มสร้างผลงานการ์ตูนแนวสามช่องจบ หรือการ์ตูนแก๊ก และก่อตั้งนิตยสาร “ขายหัวเราะ” ขึ้นในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการการ์ตูนไทย
ความสำเร็จของ “ขายหัวเราะ” นำไปสู่การเปิดตัว “มหาสนุก” ในปี พ.ศ. 2518 ซึ่งเป็นนิตยสารการ์ตูนที่มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายครอบครัว และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ คุณวิธิตยังได้สร้างสรรค์ผลงานการ์ตูนชุดมินิซีรีส์อีกมากมาย เช่น “ปังปอนด์” “บ้าครบสูตร” และ “สาวดอกไม้กะนายกล้วยไข่” ซึ่งล้วนแต่เป็นที่จดจำของผู้อ่านชาวไทย
ปัจจุบัน แม้คุณวิธิตจะวางมือจากงานบริหารส่วนใหญ่ โดยมอบหมายให้ พิมพ์พิชชา อุตสาหจิต ลูกสาวคนโตเข้ามาดูแลแทน แต่มรดกทางวัฒนธรรมที่คุณวิธิตได้สร้างไว้ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนไทยหลายยุคหลายสมัย แม้ว่า “ขายหัวเราะ” ฉบับสุดท้ายที่วางแผงจะเป็นฉบับที่ 1515 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่คุณวิธิตได้มอบให้กับสังคมไทยนั้น ยังคงก้องกังวานและสร้างความสุขให้กับผู้คนอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
