เตือน ระวังภัยแฝงจากการโอนเงินผิดบัญชี – วิธีรับมืออย่างปลอดภัย

ในยุคดิจิทัลที่การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบออนไลน์เป็นเรื่องปกติ การได้รับแจ้งเตือนว่ามีเงินเข้าบัญชีโดยไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตามมาด้วยสายโทรศัพท์จากบุคคลที่อ้างว่าโอนเงินผิดบัญชีและขอให้โอนคืน สถานการณ์เช่นนี้อาจทำให้หลายคนรีบร้อนดำเนินการโอนคืนทันที ด้วยความคิดที่ว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องและมีน้ำใจ แต่ความจริงแล้ว การตัดสินใจเช่นนั้นอาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ที่คาดไม่ถึง

การโอนเงินผิดบัญชีในบางกรณีอาจเป็นกลยุทธ์ของมิจฉาชีพที่หวังใช้บัญชีของเราเป็น “บัญชีม้า” ในการฟอกเงินหรือถ่ายโอนเงินที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย การรีบร้อนโอนคืนโดยไม่ตรวจสอบให้ดีอาจทำให้เราตกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางอาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจนำไปสู่การถูกสอบสวนหรือดำเนินคดีทางกฎหมายได้

วิธีรับมือเมื่อมีคนแจ้งว่าโอนเงินผิดบัญชี

  1. สอบถามข้อมูลให้ละเอียด: ขอทราบชื่อ-นามสกุลของผู้โอน ธนาคารต้นทาง วันเวลาที่ทำรายการ และจำนวนเงินที่โอนมา
  2. ตรวจสอบความถูกต้อง: เช็คยอดเงินในบัญชีว่ามีการโอนเข้ามาจริงหรือไม่
  3. ติดต่อธนาคาร: หากพบว่ามีการโอนเงินเข้ามาจริง ให้โทรติดต่อคอลเซ็นเตอร์ของธนาคารทันที
  4. ให้ธนาคารดำเนินการ: หากธนาคารยืนยันว่าเป็นการโอนผิดบัญชีจริง ให้ยินยอมให้ธนาคารเป็นผู้ดำเนินการโอนเงินคืนบัญชีต้นทาง

ข้อควรระวังเป็นพิเศษ: อย่าโอนเงินคืนด้วยตัวเอง

การโอนเงินคืนด้วยตัวเองอาจเป็นการเปิดช่องให้ตกเป็นเครื่องมือในการฟอกเงินของมิจฉาชีพได้ ดังนั้น ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของธนาคารในการดำเนินการโอนคืนเท่านั้น

เบื้องหลังกลโกงการโอนเงินผิดบัญชี

การโอนเงินผิดบัญชีอาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนการณ์ที่ซับซ้อนของอาชญากร โดยมักมีรูปแบบดังนี้:

  1. มิจฉาชีพหลอกให้เหยื่อรายแรกโอนเงินมายังบัญชีของเรา
  2. จากนั้นจะรีบติดต่อเราทันที อ้างว่าโอนผิดและขอให้โอนคืน
  3. หากเราหลงเชื่อและโอนคืน เท่ากับเราได้โอนเงินของเราเองไปให้มิจฉาชีพ
  4. เมื่อเหยื่อรายแรกทวงถามเงิน ก็จะพบว่าเงินได้ถูกโอนออกจากบัญชีเราไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้ การระมัดระวังและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันตัวเองจากการตกเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือของมิจฉาชีพ การรู้เท่าทันและไม่รีบร้อนตัดสินใจจะช่วยให้เราปลอดภัยจากภัยทางการเงินที่แฝงมาในรูปแบบต่างๆ ได้